ประวัติของFedEx
Federal Express เป็นบริษัทขนส่งทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเมมฟิส มลรัฐเทนเนสซี่มีการจัดส่งสินค้ากว่า 2 ล้านรายการใน 186 ประเทศต่อวัน และมีพนักงานกว่า 120,000 คน โดยมีรายได้ในปี ค.ศ. 2001 สูงถึง 2หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทมีมาตรฐานในการจัดส่งที่น่าเชื่อถือ ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มีการบริหารการจัดส่งที่ดีและมุ่งเน้นความพึงพอใจของลูกค้ามุ่งมั่นในการสร้างตนเองให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้โดย บริษัทจะต้องสร้างเสริมความสามารถทางปัญญา ความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง และไหวพริบสติปัญญา ดังนั้นบริษัทจึงได้พัฒนาและทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆหลายอย่าง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความแตกต่างจากบริษัทคู่แข่ง ในปี 1980 มีการขยายออกก่อนกำหนดถึง 40 เปอร์เซ็นต่อปี มีลูกจ้างเกือบ6700 ได้มีการขยายการบรรจุถึง 65,000 ต่อคืน Falcons 323,626s, 5, 737s, 8DC-10s และ 2000 รถขนส่งแบบตู้ขาออกจากบริษัทขนส่งจากคลังสินค้า จำนวนของที่ส่งไป
เช่นคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์มีการสนับสนุนด้านการขนส่งที่รวดเร็วให้แก่ลูกค้าโดยมีการขนส่ง 2 ทางทั้งทางคอมพิวเตอร์และทางพาหนะ และยังมีการตรวจสอบ บาร์โค้ด ใช้ในการดำเนินงาน ในปัจจุบัน บริษัท FEDEX ได้รวม
โครงสร้างขั้นพื้นฐานทางกายภาพและ เสมือน, model ทางธุรกิจของ FEDEX สามรถที่จะส่งพัสดุไปที่ไหนก็ได้ในโลก 24-48 ชั่วโมง.
FEDEX เป็นศูนย์ที่มีกระบวนการกระทำข้อมูล ที่เป็นที่หนึ่งของโลกธุรกิจ, มีการจัดการ100 ล้าน สารสนเทศ ต่อวันจากที่มากกว่า 3,000 ฐานข้อมูลและมากกว่า 500,000 ไฟล์ที่ได้รับ.มันเป็นระบบ client-server network online แบบ real time แห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก. ความสามารถหลักของ FedEx ในปัจจุบันคือการส่งแบบเร่งด่วนและ e-solution 4. Strategic Competitiveness กลยุทธ์หลักของ FedEx ก็คือ องค์กรจะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อคลอบคลุมการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยบริษัทจะขยาย Hub ให้เครือข่ายคลอบคลุมไปทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงทุกมุมโลก และเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุก ๆ พื้นที่ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นี้ เนื่องจากการเคลื่อนตัวของนวัตกรรมซึ่งเป็นวัฒนธรรมขององค์กร FedEx ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ FedEx ยังจะพัฒนาเทคโนโลยีในทุก ๆ ด้านเพื่อส่งเสริมการบริการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ระบบขนส่งอัจฉริยะ
วัฒนธรรมของ FedEx
ให้การสนับสนุนหลักความประพฤติง่ายๆ ของคน การให้บริการ กำไร และความคาดหมายว่าจะให้ลูกจ้างมั่นใจและลูกจ้างใหม่ ผ่านประสบการณ์อย่างกว้างขวางทั้งการอบรมและการปรับให้เข้ากับระเบียบ บริษัทวางเป้าหมายไว้100 เปอร์เซ็นต์ในการสร้างความพอใจให้กับลูกค้าและสร้างสิ่งแวดล้อมให้ลูกจ้างเกิดควาพึงพอใจ
การจัดการตำแหน่งให้ลูกจ้างและให้สิทธิพิเศษระดับหนึ่ง และทำการสำรวจ วิธีการผลตอบกลับมาว่าเป็นอย่างไรและมีการอบรม ที่สถาบันผู้นำ ให้แก่ลูกจ้างปรึกษาสมาคม (ALPA) การเรียนรู้ในการให้บริการแก่ลูกค้าโดยอาศัยเทคโนโลยี FedEx มุ่งมั่นในการสร้างตนเองให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ดังนั้นบริษัทจึงพัฒนาและทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ หลายอย่าง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความแตกต่างจากบริษัทคู่แข่ง นอกจากนี้ FedEx ได้พยายามนำเทคโนโลยี เช่น Interactive Video หรือ CD-ROM มาช่วยในการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรการพัฒนาพนักงาน อีกทั้งมีการปรับปรุงโปรแกรมเพื่อการบริการลูกค้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าของ FedEx ต้องรับโทรศัพท์วันละหลายพันสาย ทุกสายล้วนต้องการคำตอบที่รวดเร็วฉับไว แต่จากการใช้ EPSSทำให้ FedEx สามารถแก้ปัญหาได้ "ทันทีโดยปราศจากการส่งต่อลูกค้าไปให้ผู้อื่น" นอกจากนี้ FedEx ได้พัฒนาโปรแกรมการทดสอบชื่อ "QUEST (Quality Using Electronic Systems Training)"
เพื่อใช้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบบทดสอบในการเรียนรู้ทั้งหมดนั้นถูกต้อง เหมาะสม ยุติธรรม และได้มาตรฐาน โดยบริษัทได้จัดตั้งกลุ่มทำงานที่ประกอบด้วย ผู้ฝึกอบรม ผู้จัดการ และพนักงานขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ออกแบบ "แบบทดสอบ"ชนิดให้เลือกคำตอบที่ประกอบไปด้วยคำถามเกี่ยวกับมิติสำคัญๆ ของงานที่พนักงานต้องทำ โปรแกรม QUEST นี้ยังช่วยลดระยะเวลาในการบริหารจัดการให้กับ FedEx ด้วย เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ตรวจข้อสอบ และบันทึกผลคะแนนวิเคราะห์ผล รวมทั้งรายงานผลการทดสอบแทนคน
ความสำเร็จของการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น พอจะสรุปได้ดังนี้
ลดเวลาในการฝึกอบรมให้มีประสิทธิผล โดยบางหลักสูตรสามารถลด เวลาได้ถึง 50% หลังจากมีการใช้Interactiv Video
คะแนนจากการทดสอบความรู้ในงานของพนักงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20 คะแนน และพนักงานที่ทำคะแนนได้ดีก็มักจะสามารถปฏิบัติงานได้ดีด้วยเช่นกัน
โปรแกรม QUEST ช่วยลดเวลาในการบริหารจัดการ เนื่องจากทำให้ที่ตรวจข้อสอบ และบันทึกผลคะแนน วิเคราะห์ผล รวมทั้งรายงานผลการทดสอบแทนคน
พนักงานทุกคนทำงานโดยอาศัยความรู้ที่เหมือนๆกัน ซึ่งหมายความว่า ลูกค้าจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเหมือนกันจากพนักงานทุกคน สิ่งนี้จะช่วยรักษามาตรฐานการบริการและคุณภาพของบริษัทได้เป็นอย่างดี




จุดแข็งและจุดอ่อนของ FedEx
จุดแข็ง (Strengths)
FedEx เป็นองค์กรที่มีขนาดระดับโลก โดยให้บริการในมากกว่า 220 ประเทศ โดยธุรกิจขนส่งที่ FedEx ทำอยู่นี้มีความน่าสนใจเป็นอันดับต้นๆของโลก เนื่องจากขนาดตลาดที่มีขนาดมโหฬาร รายได้จำนวนมหาศาล ทำให้ FedEx ประสบความสำเร็จในเรื่องของการสร้าง Economies of Scale
FedEx เสาะหาเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดย FedEx ใช้จ่ายกับเรื่อง Information Technology (IT)ปีละกว่า 1000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของรายได้ ซึ่งถือเป็นคำมั่นสัญญาที่บริษัทให้กับลูกค้าไม่ให้เปลี่ยนใจไปใช้บริการของบริษัทอื่น นอกจากนี้ FedEx ยังมีการสื่อสารกับลูกค้าที่ดีเยี่ยม โดยบริษัทใช้Super Tracker (ระบบเครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบพกพา) และระบบ COSMOS กับพัสดุทุกชิ้นทำให้ลูกค้าสามารถติดตามว่าพัสดุของตนอยู่ที่ไหน ผ่านหลายๆช่องทาง แม้กระทั่ง Web Site ของพันธมิตร


จุดอ่อน (Weaknesses)


ปี ค.ศ. 1988 CEO Frederick Smith กล่าวว่า “ภายใต้ร่มของเครือ FedEx พวกเราจะใช้จุดแข็งร่วมกันขณะที่แต่ละบริษัทสามารถปฏิบัติงานอย่างเป็นอิสระ เพื่อที่จะมุ่งตอบสนองตลาดของแต่ละคน” CEOของ FedEx เชื่อว่านี่จะเป็นจุดแข็งมากกว่าที่จะเป็นจุดอ่อนแต่ในขณะเดียวกันการที่ไม่รวมบริษัทสาขาเข้ามาก็มีแนวโน้มที่จะทำให้คุณภาพของการบริการแย่ลงและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
การแก้ปัญหาด้วยระบบ
Information Technology/Project
ในยุคเริ่มต้น Software Application หลักที่ถูกนำมาใช้คือ e-Shipping Tools เป็น Web applicationให้ลูกค้าตรวจสอบสถานะของการจัดส่งผ่านทาง Web. FedEx ได้จัดหาวิธีการที่จะรวมที่อยู่ของการขายทั้งหมดและห่วงโซ่อุปทานของผู้บริโภค.วิธีการทาง E-Commerceเต็มรูปแบบเป็นวิธีการบริการที่เหมาะสมที่สุดซึ่งจะรวมธุรกิจทางการขนส่งและระบบสารสนเทศ
ผลลัพธ์
รูปแบบทางธุรกิจที่สร้างขึ้นมาก่อมูลค่าให้แก่ลูกค้าหลายด้านสื่อสารและประสานงานกันได้ดีขึ้นตลอดการขายและsupply chain

e-business logistic enterpr
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
(คุณปรัชญา ลาภเจริญวงศ์)